ในบทความนี้แอดมินฟร้อนเทลจะพาทุกคนมารู้จักกับรูปแบบต่างๆของตะขอสร้อย พร้อมวิธีใช้งานตะขอในแต่ละแบบ มาฝากกันครับ
หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือ “ตะขอสร้อย” การเลือกตะขอที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรา จะสามารถช่วยเพิ่มความสะดวกในการยืดอายุใช้งานเครื่องประดับให้ยาวนานขึ้น อีกทั้งยังสวยงามอีกด้วย ในบทความนี้แอดมินฟร้อนเทลจะพาทุกคนไปรู้จักกับตะขอสร้อยหลายๆรูปแบบ ว่าแต่ละรูปแบบเหมาะกับการใช้งานแบบไหน มาฝากกันครับ
ตะขอสร้อยตัวเอ็ม (M-Clasp)
จุดเด่น
มีลักษณะคล้ายตัวอักษร M
โครงสร้างตะขอแข็งแรงและเหมาะสำหรับสร้อยที่ต้องการความปลอดภัยสูง
ใช้งานง่าย สามารถเลื่อนหรือคล้องได้รวดเร็ว
เหมาะกะบสร้อยที่ต้องการห้อยจี้ที่ตะขอ
เหมาะสำหรับ
สร้อยคอหรือสร้อยข้อมือที่มีน้ำหนักปานกลางถึงมาก โดยเฉพาะสายสร้อยที่มีโทนลุยๆ หรือวินเทจ
ตะขอไอ-โอ หรือตะขอทีบาร์ (T-Bar Clasp)
จุดเด่น
ออกแบบเป็นแท่งตรง (T) และห่วงคล้องวงกลม
เน้นความสะดวกในการถอด-ใส่
มีความสวยงามในตัว จึงมักใช้เป็นจุดเด่นของสร้อย
เหมาะกับสร้อยลายโซ่
เหมาะสำหรับ
สร้อยคอสไตล์โมเดิร์นหรือมินิมอล รวมถึงสร้อยข้อมือสายแฟชั่น
ตะขอสร้อยตัวเอส (S-Clasp)
จุดเด่น
มีลักษณะคล้ายตัวอักษร S ที่โค้งมน
ใช้งานง่ายด้วยการเกี่ยวข้างหนึ่งเข้ากับอีกข้างหนึ่ง
สามารถปรับแต่งลวดลายให้มีความหรูหราได้
เหมาะกับสร้อยที่ไม่ต้องการห้อยจี้ที่ตะขอ
เหมาะสำหรับ
สร้อยคอที่ออกแบบในสไตล์คลาสสิกหรือโบฮีเมียน
ตะขอก้ามปู (Lobster Clasp)
จุดเด่น
มีลักษณะคล้ายก้ามปู เปิด-ปิดด้วยสปริง
ทนทานและใช้งานง่าย
ตัวล็อกแน่นหนา จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
เหมาะสำหรับ
สร้อยคอและสร้อยข้อมือทุกประเภท โดยเฉพาะจิวเวลรีที่ต้องการความปลอดภัยสูง
ตะขอก้ามกุ้ง (Crab Clasp)
จุดเด่น
คล้ายคลึงกับตะขอก้ามปู แต่มีลักษณะที่เล็กกว่า
เหมาะกับจิวเวลรีที่ต้องการความเบาและเรียบง่าย
ใช้กับสร้อยที่มีขนาดเล็กๆ
มีความปลอดภัยและใช้งานง่าย
เหมาะสำหรับ
สร้อยคอน้ำหนักเบาหรือสร้อยข้อมือที่ต้องการความหรูหราแบบเรียบง่าย หรือสร้อยจำพวกที่มีความเล่นแสงระยิบระยับ
ตะขอสปริงกลมเล็ก (Spring Ring Clasp)
จุดเด่น
มีลักษณะเป็นวงกลมเล็กๆ มีสปริงด้านใน
ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา
เหมาะสำหรับจิวเวลรีที่เน้นความประณีต
เหมาะกับสร้อยคอพวกมินิมอล เส้นเล็กๆ
การใช้งานคล้ายๆกับตะขอก้ามกุ้ง
เหมาะสำหรับ
สร้อยคอและสร้อยข้อมือขนาดเล็ก เช่น สร้อยคอทองคำบางๆ
ตะขอสปริงกลมใหญ่ (Large Spring Ring Clasp)
จุดเด่น
ขยายขนาดจากตะขอสปริงกลมแบบปกติ เพื่อใช้กับจิวเวลรีที่มีน้ำหนักมากขึ้น
มีความแข็งแรงและสะดวกในการใช้งาน
ดีไซน์เรียบง่ายแต่ดูหรูหรา
มักใส่กับสายสร้อยที่ยาวประมาณอกช่วงบน เพื่อโชว์จี้และตะขอสร้อย
มักจะใส่จี้ขนาดใหญ่
เหมาะสำหรับ
สร้อยคอเส้นใหญ่หรือสร้อยที่มีการประดับจี้ขนาดใหญ่
วิธีการเลือกตะขอสร้อยให้เหมาะสม
วัสดุ
เลือกตะขอที่ทำจากวัสดุเดียวกับสร้อย เช่น ทองคำ เงิน หรือสแตนเลส เพื่อให้ดูสีและสไตล์มีความเข้ากัน
น้ำหนัก
ควรเลือกตามน้ำหนักของสร้อย เช่น สร้อยที่น้ำหนักมากควรใช้ตะขอที่แข็งแรง เช่น ตะขอก้ามปูหรือตะขอสปริงกลมใหญ่
ดีไซน์
ตะขอทีบาร์และตะขอเอสเหมาะกับจิวเวลรีที่ต้องการความสวยงามและโดดเด่น
การดูแลและบำรุงรักษาตะขอสร้อย
ทำความสะอาด
ใช้ผ้านุ่มเช็ดตะขอหลังการใช้งานเพื่อป้องกันคราบและสนิม
หมั่นตรวจสอบความแข็งแรงและสภาพของตัวตะขอ
หมั่นเช็คสภาพสปริงและความแน่นหนาของตะขอ
หากเสียหายควรรีบซ่อมแซม
หากพบว่าตะขอหลวม ควรนำไปซ่อมแซมโดยช่างจิวเวลรีที่เชี่ยวชาญ
หวังว่าความรู้ในเรื่องนี้ที่แอดมินฟร้อนเทล นำมาฝากจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนนะครับ สำหรับใครหลงใหลเครื่องประดับเงินสวยๆ สามารถติดตามบทความดีๆ ของเราได้ที่เพจฟร้อนเทล ได้เลยนะครับ
Comments