วันนี้แอดมินฟร้อนเทลขอนำเสนอเคล็ดลับการเลือกหยกอย่างไร ให้ได้หยกแท้ และสวยงามไปในตัว มาฝากกันครับ
วิธีการเลือกหยกนั้นมีหลายวิธีทางร้านฟร้อนเทลขอยกตัวอย่างเช่น
จากแหล่งที่มา
หยกมีหลายแหล่งเช่น พม่า, จีน เป็นต้น หยกคุณภาพสูงที่สุดคือหยกธรรมชาติจากพม่า (Bemese Jade) ซึ่งควรจะมีใบcertificate รับรองแหล่งที่มา ว่ามาจากพม่าแท้ๆ
ตรวจสอบว่าหยกธรรมชาติหรือไม่
เนื่องจากหยกเป็นอัญมณีที่พบการปรับปรุงคุณภาพมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการย้อมสีให้เข้มขึ้น, การฉีด wax เข้าไปในเนื้อเพือให้เนื้อดูโปร่ง มันวาวมากขึ้น ดังนั้นการเลือกซื้อหยกคุณภาพสูง จึงควรเป็นหยกที่มีใบรับรอง certificate ว่าเป็นหยกพม่าแท้และไม่ผ่านการปรับปรุงคุณภาพ
สี
หยกสีเขียว เช่น สีเขียวมรกต, เขียวแอปเปิล, เขียวแกมเหลือง, เขียวแกมเทา ควรมีความเข้มของสีปานกลางหรือกึ่งๆเข้ม สีสม่ำเสมอทั่วทั้งเม็ด ไม่มีจุดหรือรอยด่างของสี บริเวณที่มีสีเขียวเข้มดำมักจะเจียระไนให้บางมากที่สุด เพื่อช่วยให้มีความโปร่งใส สวยงามมากขึ้น
ความโปร่งใส
เนื้อหยกควรมีลักษณะโปร่งแสง กึ่งโปร่งใส และโปร่งใสขึ้นอยู่กับปริมาณของแสงว่าส่องทะลุได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งความโปร่งใสนี้จะสัมพันธ์กับลักษณะเนื้อแร่คือความละเอียดหรือความหยาบของผลึกแร่ที่เกาะประสานกันในเนื้อหยก ที่มีเนื้อเป็นผลึกแร่เล็กละเอียดผสานกันแน่น มักมีความโปร่งใสมาก ส่วนหยก ที่มีเนื้อเป็นผลึกแร่ค่อนข้างใหญ่หยาบเนื้อประสานกันได้ไม่ดีมาก ไม่ค่อยมีความโปร่งดังนั้นควรเลือกซื้อหยกที่มีความโปร่งใสมากกว่า
ความมันวาว
เหมือนขี้ผึ้งหรือน้ำมัน มองดูนุ่มนวลเหมือนปุยนุ่น ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของหยกเนื้อละเอียด ซึ่งจะมีความโปร่งใสบ้าง แต่หากมีความวาวเหมือนแก้วร่วมด้วย จะถือเป็นหยกคุณภาพดีมาก ซึ่งจะค่อนข้างหาได้ยาก
ติดต่ามเรื่องราวดีๆได้ที่ ฟร้อนเทล @Fronttale.
Comments